ลูกพูดช้า ปัญหาพัฒนาการเด็กที่ไม่ควรมองข้าม
- By จิรวัฒน์ ศาลาสุข
- News & Events
- Hits: 1688
ภาวะพูดช้า (Delayed Speech) คืออะไร
ภาวะพูดช้า คือ ภาวะที่เด็กมีพัฒนาการทางด้านภาษาและการพูดไม่เป็นไปตามวัย มักพบในวัยก่อนวัยเรียน แต่พัฒนาการของเด็กแต่ละคนจะแตกต่างกันไป จึงอาจไม่ใช่เรื่องแปลกที่เด็กบางคนเริ่มพูดเป็นประโยคสั้น ๆ ได้ช้ากว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน
โดยทั่วไป เด็กอาจมีพัฒนาการด้านการพูดและการสื่อสารตามช่วงอายุ ดังนี้
อายุ 1 ปี : พัฒนาจากการพูดอ้อแอ้ไม่เป็นภาษามาเป็นคำพูดง่าย ๆ
อายุ 2 ปี : พูดคำที่มีความหมายติดกัน 2 คำ
อายุ 3 ปี : พูดเป็นประโยคสั้น ๆ ระบุส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้
อายุ 4 ปี : เล่าเรื่องง่าย ๆ พูดประโยคได้ครั้งละประมาณ 5 คำ
อายุ 5 ปี : รู้จักตั้งคำถาม เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างวันได้
ลูก พูด ช้า เกิดจากอะไร
ปัญหาลูกพูดช้า อาจเกิดได้จากปัจจัยต่อไปนี้
ปัญหาเกี่ยวกับลิ้นหรือเพดานปากของเด็ก อาจทำให้เด็กไม่สามารถเปล่งเสียงและประกอบเป็นคำได้ตามปกติ
ปัญหาการได้ยิน เด็กที่มีปัญหาการพูดอาจมีปัญหาการได้ยินเนื่องจากเกิดการติดเชื้อที่หู เป็นต้น จนส่งผลให้หูหนวกหรือได้ยินเสียงไม่ชัดเจน และกระทบต่อการพูด เพราะเด็กไม่สามารถเรียนรู้การใช้ภาษาและเลียนแบบคำพูดจากการฟังได้เหมือนเด็กทั่วไป
ภาวะการเรียนรู้บกพร่อง (Learning Disability หรือ LD) ปัญหาด้านการพูดและการสื่อสาร เช่น ลูกไม่ยอมพูด ลูกพูดช้า อาจเป็นสัญญาณว่าลูกมีภาวะการเรียนรู้บกพร่อง
ความผิดปกติด้านพัฒนาการ เช่น ภาวะสมองพิการ (Cerebral palsy) กลุ่มอาการออทิสติกสเปกตรัม (Autism Spectrum Disorder) อาจทำให้ลูกมีพัฒนาการด้านการพูดล่าช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกัน
ภาวะขาดสิ่งกระตุ้น สิ่งแวดล้อมที่เด็กอาศัยอยู่สามารถส่งผลต่อการพูดของเด็กได้ หากพ่อแม่ไม่เอาใจใส่ พ่อแม่พูดแทนและไม่ฝึกให้ลูกพูด ก็อาจทำให้ลูกใช้เวลาอยู่กับสื่ออิเล็กทรอนิกส์มากกว่าอยู่กับคนอื่น จนไม่ได้ฝึกฝนด้านการพูดและการสื่อสารอย่างที่ควรเป็น
อาการที่เป็นสัญญาณว่าลูกพูดช้า
สัญญาณของปัญหาลูกพูดช้า อาจมีดังนี้
ลูกอายุได้ 12-15 เดือนแล้ว แต่ยังไม่พูดคำง่าย ๆ เช่น พ่อ แม่
ลูกอายุได้ 3 ปีแล้ว แต่ยังไม่เริ่มพูดประโยคสั้น ๆ
ลูกอายุ 4-5 ปีแล้ว แต่ยังไม่สามารถเล่าเรื่องหรือนิทานง่าย ๆ ได้
ลูก พูด ช้า รักษาอย่างไร
การรักษาปัญหาลูกพูดช้าอาจแตกต่างไปตามสาเหตุ เด็กที่พูดช้าบางคนอาจแค่ต้องการเวลามากกว่าเด็กคนอื่น ๆ กว่าจะเริ่มพูดคุยได้ ในกรณีนี้ ไม่จำเป็นต้องรับการรักษา แต่แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่เน้นส่งเสริมพัฒนาการด้านการพูดเพื่อกระตุ้นให้เด็กเริ่มพูด เช่น เล่านิทานให้ฟังก่อนนอน เปิดเพลงคำศัพท์ให้ฟังบ่อย ๆ พูดชมเมื่อเด็กพยายามสื่อสาร
แต่หากลูกพูดช้าเนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ อาจต้องพาลูกไปเข้ารับการรักษาปัญหาสุขภาพนั้น ๆ ร่วมกับรับมือด้วยวิธีดังตัวอย่างต่อไปนี้
อรรถบำบัด (Speech therapy) คุณหมออาจแนะนำให้เด็กรักษากับนักแก้ไขการพูด (Speech-Language Pathologist) ซึ่งจะพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่เกี่ยวกับการสื่อสารของเด็กและพัฒนาการทั่วไป และอาจใช้แบบทดสอบการพูดเพื่อประเมินความสามารถในการพูดของเด็ก บางกรณีอาจมีการทดสอบการฟังด้วย เนื่องจากปัญหาการได้ยินอาจส่งผลต่อพัฒนาการด้านการพูดและการสื่อสาร
การสอนภาษามือ การให้เด็กเรียนรู้วิธีสื่อสารด้วยภาษามือ อาจช่วยให้เด็กมีพัฒนาการด้านการพูดและการใช้ภาษาที่ดีขึ้นได้
การใช้เครื่องช่วยฟัง เด็กที่มีปัญหาสูญเสียการได้ยินอาจใช้เครื่องช่วยฟังหรือผ่าตัดประสาทหูเทียมเพื่อปรับปรุงการได้ยิน เมื่อเด็กได้ยินเสียงพูดก็อาจสามารถพัฒนาการพูดของตัวเองต่อไปได้
การบำบัดทางจิตวิทยา คุณหมออาจแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่พาเด็กไปพบจิตแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านปัญหาพฤติกรรม หรือนักกิจกรรมบำบัด (Occupational Therapist) ที่เชี่ยวชาญด้านการนำกิจกรรมมาประยุกต์ใช้เพื่อปรับพฤติกรรมของเด็ก หรืออาจแนะนำให้ปรึกษานักสังคมสงเคราะห์ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการแก้ไขปัญหาครอบครัว
สำหรับผู้ปกครองที่เป็นกังวลในพัฒนาการของบุตรและต้องการเสริมสร้างพัฒนาการให้แก่ลูก ๆ ของท่าน ของเล่น Safsof เป็นตัวช่วยที่คุณต้องการ!
ของเล่นสำหรับเด็ก ของเรานั้นปลอดภัยและมีคุณภาพสูง มีผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบและหลายเฉดสี ให้ความนุ่มนวลและสบายต่อการจับได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป ไม่มีสารพิษหรือสารเคมีที่อันตรายต่อสุขภาพ เพื่อให้คุณและเด็กปลอดภัย
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ของ Safsof ยังเป็นอุปกรณ์ช่วยฝึกฝนกีฬาต่าง ๆ เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องกีฬาและส่งเสริมสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงไปพร้อมกัน นอกจากนี้ การเล่นกับลูก ๆ ของคุณยังเป็นโอกาสที่ดีที่จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และความสนุกสนานระหว่างคนในครอบครัวอีกด้วย
ที่มา: https://hellokhunmor.com/